คำค้นหายอดนิยม
ความยั่งยืน
สร้างโลกที่แตกต่างไปกับเนสกาแฟ
3
นาที
NESCAFÉ® มุ่งมั่นสร้างอนาคตที่สดใส สำหรับชุมชนกาแฟและเกษตรกรทั่วโลก มาร่วมค้นหาว่าแก้วกาแฟของคุณสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร.
สร้างอนาคตสีเขียว ไปกับเนสกาแฟ
ตั้งแต่ปี 2022 NESCAFÉ® ได้ทำการปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 4.5 ล้านต้นทั่วโลก จากการสนับสนุนของ Nestlé GRP Program และยังมีเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้ท้องถิ่นเพิ่มขึ้นให้ได้ถึง 20 ล้านต้น ทั้งในและรอบๆ ไร่กาแฟ ภายในปี 2026 เพื่อส่งเสริมเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น และช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2).
(Sustainability) และแผนการปลูกต้นไม้ของ NESCAFÉ® นอกจากจะเป็นการช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพของดิน และการผลิตกาแฟให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย.
เนสกาแฟกับการทำงานร่วมกับเกษตรกร
เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟกว่า 100,000 คนทั่วโลก เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรของเนสกาแฟ.
โดยในปี 1960 NESCAFÉ® ได้ริเริ่มโครงการช่วยเหลือเกษตรกร โดยการนำแนวทางพัฒนาการเกษตรที่ดีที่สุดมาใช้เป็นที่แรกในประเทศฟิลิปปินส์.
ปัจจุบันเราได้ช่วยสนับสนุน และพัฒนาความเป็นอยู่ของเกษตรกรทั่วโลก ผ่านแนวทางการปรับปรุงผลผลิตและพัฒนาประสิทธิภาพของฟาร์ม โดยเราได้ช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้วกว่า 900,000 รายตั้งแต่ปี 2010.
โดยในปี 1960 NESCAFÉ® ได้ริเริ่มโครงการช่วยเหลือเกษตรกร โดยการนำแนวทางพัฒนาการเกษตรที่ดีที่สุดมาใช้เป็นที่แรกในประเทศฟิลิปปินส์.
ปัจจุบันเราได้ช่วยสนับสนุน และพัฒนาความเป็นอยู่ของเกษตรกรทั่วโลก ผ่านแนวทางการปรับปรุงผลผลิตและพัฒนาประสิทธิภาพของฟาร์ม โดยเราได้ช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้วกว่า 900,000 รายตั้งแต่ปี 2010.
รู้หรือไม่? หากต้มน้ำร้อนให้เดือดในอุณหภูมิเพียง 80°C คุณจะสามารถประหยัดพลังงานไปได้มากถึง 25kWh ต่อปี หรือเทียบเท่ากับการเปิดทีวี LED ขนาด 50 นิ้ว นานถึง 340 ชั่วโมง
การปลูกและจัดหาเมล็ดกาแฟอย่างมีความรับผิดชอบ
ผลิตภัณฑ์ของ NESCAFÉ®! มาจากแหล่งปลูกกาแฟที่ไว้ใจได้ และเป็นไปตามมาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล ผ่านการตรวจสอบจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ โดยคำนึงถึงตัวชี้วัดทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม.
ระหว่างการเดินทางเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความยั่งยืน ในปี 2023 เพียงปีเดียว เราได้จัดหาเมล็ดกาแฟกว่า 700,000 ตัน หรือเทียบเท่ากับปริมาณกาแฟมากถึง 84 พันล้านถ้วย.
ระหว่างการเดินทางเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความยั่งยืน ในปี 2023 เพียงปีเดียว เราได้จัดหาเมล็ดกาแฟกว่า 700,000 ตัน หรือเทียบเท่ากับปริมาณกาแฟมากถึง 84 พันล้านถ้วย.
การยับยั้งการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปัจจุบัน ที่โรงงานของ NESCAFÉ® 20 แห่งทั่วโลก เราใช้กากกาแฟที่ใช้แล้วเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพแทนน้ำมัน ซึ่งช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ถึง 555,000 บาร์เรลต่อปี เทียบเท่ากับ 195,000 ตันคาร์บอนต่อปี และยังคงเป็นพันธกิจที่เราตั้งใจจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์.
อนุรักษ์น้ำเพื่อสร้างชุมชนที่ยั่งยืน
NESCAFÉ® เรามีแพลนและความมุ่งมั่นที่จะลดการใช้น้ำ โดยตั้งแต่ปี 2011 ในเวียดนามเราใช้น้ำในการปลูกกาแฟน้อยลงประมาณ 40% แต่ยังคงได้ผลผลิตที่มีคุณภาพคงเดิม ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสำหรับเกษตรกรในการจัดสรรน้ำให้กับชุมชนท้องถิ่นลดลง และเรายังได้ถ่ายทอดองค์ความรู้สำหรับการประหยัดน้ำให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ เพื่อลดปริมาณน้ำสำหรับใช้ในการเพาะปลูก.
ขอขอบคุณที่มา
1. Source: NESCAFÉ® Plan 2030 and NESCAFÉ® Plan 2021.
2. NESCAFE® aims to plant 20 million native trees in and around coffee farms by 2026. NESCAFÉ® aims to use renewable electricity to power all our coffee factories by 2025.
3. Based on energy saved per person per year
( https://energyusecalculator.com/electricity_lcdleddisplay.htm).
4. Sourcing coffee responsibly Source: NESCAFÉ®
(https://www.nescafe.com/au/sourcing-coffee-responsibly).
5. Based on the average amount of cups of coffee from 1kg of coffee beans.
Source: Shop Coffee (https://www.shopcoffee.co.uk/coffee/many-cups-1kg-coffee-beans/).
6. Based on a typical passenger vehicle’s emissions of about 46 metric tons of carbon dioxide per year.
Source: EPA (https://www.epa.gov/greenvehicles/greenhouse-gas-emissions-typical-passenger-vehicle).
7. Water saving data from NESCAFÉ Vietnam.