คำค้นหายอดนิยม
กาแฟดีแคฟ (Decaf Coffee) คืออะไร? มีวิธีทำอย่างไร?
อย่างที่รู้กันดีว่าในกาแฟทั่วไปนั้นมีส่วนผสมของคาเฟอีน ทำให้กาแฟดีแคฟเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟแต่อยากหลีกเลี่ยงคาเฟอีน เช่น การดื่มกาแฟช่วงดึก ว่าแต่ กาแฟดีแคฟมีวิธีการทำอย่างไรมาดูกันเลย!
Good morning!
Good afternoon!
Good evening!
Good night!
กาแฟดีแคฟคืออะไร?
โดยปกติแล้ว เมล็ดกาแฟจะมีคาเฟอีนอยู่ตามธรรมชาติ แต่สำหรับคนที่ไม่อยากบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป สามารถเลือกบริโภคกาแฟประเภทดีแคฟได้ โดยกาแฟดีแคฟนั้นผลิตจากเมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการล้างด้วยตัวทำละลาย เพื่อเอาคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟ ทำให้ได้น้ำกาแฟดีแคฟที่มีรสชาติเหมือนกับกาแฟธรรมดาแต่มีปริมาณคาเฟอีนน้อยลงเหลือประมาณ 0.3%
ทำให้ปัจจุบัน มีนักดื่มกาแฟหลายคนหันมาเลือกดื่มกาแฟดีแคฟ เพื่อยังคงเพลิดเพลินกับรสชาติของกาแฟได้ ซึ่งข้อดีของกาแฟชนิดนี้คือ สามารถดื่มได้บ่อยกว่าเมื่อเทียบกับกาแฟที่มีคาเฟอีนปกติ
วิธีทำกาแฟดีแคฟ?
โดยทั่วไปผู้ผลิตจะใช้วิธีการสกัดคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟ เช่น The Swiss Water Method (วิธีการทำ กาแฟดีแคฟ เกิดขึ้นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์), Carbon Dioxide (การกำจัดคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟด้วยคาร์บอนไดออกไซด์) และ การใช้ตัวทำละลาย Methyl Chloride (เมทิลคลอไรด์)
แต่ถึงแม้ว่ากระบวนการสกัดจะช่วยให้ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟลดลงโดยเฉลี่ย 97% เมื่อเทียบกับกาแฟธรรมดา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดคาเฟอีนทั้งหมด
วิธีทำกาแฟดีแคฟด้วยคาร์บอนไดออกไซด์
คาร์บอนไดออกไซด์สามารถแยกสารเคมีต่าง ๆ ได้ และในกรณีนี้สามารถนำมาเข้าสู่กระบวนการแยกคาเฟอีนออกจากกาแฟได้ โดยถูกปั๊มผ่านเมล็ดกาแฟ โดยคาร์บอนไดออกไซด์จะมีคุณสมบัติคล้ายแก๊ส ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในช่องว่างของเมล็ดกาแฟ และละลายคาเฟอีนออกมาในรูปแบบของเหลว
หลังจากเมล็ดกาแฟถูกแช่ในน้ำ กระบวนการนี้ทำให้โครงสร้างเซลล์ขยายตัวและทำให้การสกัดคาเฟอีนง่ายขึ้น เมล็ดกาแฟจะสัมผัสกับคาร์บอนไดออกไซด์เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยวิธีนี้จะทำให้คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนในเมล็ดกาแฟไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ซึ่งส่งผลช่วยให้รสชาติไม่เปลี่ยนแปลงมากหลังจากการสกัดคาเฟอีน
หลังจากเมล็ดกาแฟถูกแช่ในน้ำ กระบวนการนี้ทำให้โครงสร้างเซลล์ขยายตัวและทำให้การสกัดคาเฟอีนง่ายขึ้น เมล็ดกาแฟจะสัมผัสกับคาร์บอนไดออกไซด์เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยวิธีนี้จะทำให้คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนในเมล็ดกาแฟไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ซึ่งส่งผลช่วยให้รสชาติไม่เปลี่ยนแปลงมากหลังจากการสกัดคาเฟอีน
วิธีทำกาแฟดีแคฟด้วยเมทิลคลอไรด์
เมทิลีนคลอไรด์เป็นสารละลายเคมีที่ใช้ในการช่วยสกัดคาเฟอีนจากเมล็ดกาแฟ ในอดีตเบนซีนเป็นสารที่นิยมใช้ แต่ภายหลังพบว่ามีสารก่อมะเร็ง ทำให้ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปใช้สารเคมีอื่น ๆ เช่น เอทิลอะซิเตทและเมทิลีนคลอไรด์ อย่างไรก็ตาม เมทิลีนคลอไรด์ยังคงเป็นที่ถกเถียง เนื่องจากหากบริโภคในปริมาณมากอาจเป็นพิษ และทำให้ระบบประสาทส่วนกลางเสียหายได้
ขั้นตอนการทำแรกสุดคือ เมล็ดกาแฟจะถูกนำไปอบไอน้ำ เพื่อดึงคาเฟอีนจากเมล็ดกาแฟออก จากนั้นจะใช้เมทิลีนคลอไรด์กับเมล็ดกาแฟโดยตรง จากนั้นจะอบไอน้ำอีกครั้งเพื่อขับสารละลายที่ตกค้างออก แล้วเมล็ดกาแฟจะถูกอบแห้งและคั่วเหมือนเมล็ดกาแฟทั่วไป โดยวิธีการนี้จะสามารถกำจัดคาเฟอีนได้ระหว่างขั้นตอนการทำ ได้สูงถึง 96-97%
ขั้นตอนการทำแรกสุดคือ เมล็ดกาแฟจะถูกนำไปอบไอน้ำ เพื่อดึงคาเฟอีนจากเมล็ดกาแฟออก จากนั้นจะใช้เมทิลีนคลอไรด์กับเมล็ดกาแฟโดยตรง จากนั้นจะอบไอน้ำอีกครั้งเพื่อขับสารละลายที่ตกค้างออก แล้วเมล็ดกาแฟจะถูกอบแห้งและคั่วเหมือนเมล็ดกาแฟทั่วไป โดยวิธีการนี้จะสามารถกำจัดคาเฟอีนได้ระหว่างขั้นตอนการทำ ได้สูงถึง 96-97%
จะเลือกดื่มกาแฟดีแคฟหรือกาแฟปกติ?
หลายคนอาจสงสัยว่ากาแฟดีแคฟจะเหมาะกับตัวเองหรือไม่? ซึ่งไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด เพราะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าแม้กาแฟดีแคฟจะมีปริมาณคาเฟอีนลดลงอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดคาเฟอีนทั้งหมด แต่ไม่ว่าคุณจะชอบแบบไหน การมีตัวเลือกกาแฟทางเลือกอย่าง กาแฟดีแคฟ ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับรสชาติกาแฟที่หลากหลาย และสะดวกสบายยิ่งขึ้นในทุก ๆ วัน
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าแม้กาแฟดีแคฟจะมีปริมาณคาเฟอีนลดลงอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดคาเฟอีนทั้งหมด แต่ไม่ว่าคุณจะชอบแบบไหน การมีตัวเลือกกาแฟทางเลือกอย่าง กาแฟดีแคฟ ก็เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับรสชาติกาแฟที่หลากหลาย และสะดวกสบายยิ่งขึ้นในทุก ๆ วัน